4 ข้อมูลคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ของสถานีตำรวจ
คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ. 2540 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานของตำรวจในทุกระดับ ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงกิจการตำรวจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ได้กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) จัดให้มี กต.ตร. แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ กต.ตร.ระดับชาติ, กต.ตร.ระดับจังหวัด และ กต.ตร.ระดับสถานีตำรวจ (กต.ตร.สน.)
1. รับแนวทางและนโยบายการพัฒนาและการบริหารงานตำรวจจาก ก.ต.ช. ไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลตามนโยบาย
2. ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ ให้เป็นไปตามนโยบาย ก.ต.ช.
3. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของข้าราชการ และการบริหารงานตำรวจ
4. ตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจ ให้เป็นไปตามนโยบาย ก.ต.ช.
5. รับคำร้องเรียนของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจ และดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ ก.ต.ช. ว่าด้วยการรับคำร้องเรียนของประชาชน เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ
6. ให้ข้อมูลข่าวสาร และเสนอปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชนในเขตพื้นที่
7. ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือสนับสนุนการประชาสัมพันธ์งานของสถานีตำรวจ
8. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ กต.ตร.สน. มอบหมาย
9. รายงานผลการปฏิบัติงานให้ ก.ต.ช. ทราบ ตามที่ ก.ต.ช. กำหนด
10. อำนาจหน้าที่อื่นตามที่ ก.ต.ช. มอบหมาย
ประชาชนและข้าราชการอื่นนอกจากตำรวจ
มีวาระการดำรงตำแหน่งสองปี และอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่ได้
เมื่อพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้วให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
การพ้นจากตำแหน่ง
พ้นตามวาระ
ตาย
ลาออก
(ข้าราชการประจำ พนักงาน หรือลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ) เมื่อโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งนอกพื้นที่ หรือพ้นจากความเป็นข้าราชการ พนักงาน หรือ ลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
(ประชาชน) ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม
ขาดการประชุมเกินหกครั้งในรอบปีนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
กต.ตร.สน. มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีความประพฤติเสื่อมเสียหรือมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อการปฎิบัติหน้าที่กรรมการ
ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน
มีวาระการดำรงตำแหน่งสองปี และอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่ได้
เมื่อพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้วให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
การพ้นจากตำแหน่ง
พ้นตามวาระ
ตาย
ลาออก
พ้นจากการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนซึ่งดำรงตำแหน่งและปฎิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ
กรณีลาออก
ให้มีผลนับแต่วันที่เลขานุการ กต.ตร.สน. ลงทะเบียนรับหนังสือลาออกนั้น และให้เลขานุการ กต.ตร.สน. รายงานประธาน กต.ตร.สน. และ กต.ตร.สน. ต่อไป
กรณีพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ
ให้ดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการแทน แต่ถ้าวาระการดำรงตำแหน่งเหลือไม่ถึง 90 วันจะไม่สรรหาและแต่งตั้งแทน ทั้งนี้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหรือประชาชนซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนจะดำรงอยู่ในตำแหน่งเพียงเท่าวาระที่เหลืออยู่ของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น
องค์ประชุม
การประชุมของ กต.ตร.สน. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด (รวมประธานกรรมการ) จึงครบองค์ประชุม
กรณีกรรมการโดยตำแหน่งไม่สามารถเข้าประชุมได้ สามารถมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ดำรงตำแหน่งระดับรองเข้าประชุมแทนได้ แต่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและประชาชนไม่สามารถมอบหมายให้ผู้อื่นเข้าประชุมแทนได้เนื่องจากเป็นกรรมการเฉพาะตัว
ประธานที่ประชุม
กรณีประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม
ท่านประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไม่สามารถมาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นประธานที่ประชุม
ระเบียบวิธีการการประชุมและการลงมติ
ให้นำข้อบังคับ ก.ต.ช. ว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ต.ช. และของ อ.ก.ต.ช. มาใช้บังคับโดยอนุโลม
กำหนดระยะเวลาการประชุม
กต.ตร.สน. ให้มีการประชุมอย่างน้อยสองเดือนต่อหนึ่งครั้ง
ไม่มีกิจกรรม
ไม่มีกิจกรรม
ไม่มีกิจกรรม
ไม่มีกิจกรรม
ไม่มีกิจกรรม
เรียนผู้บังคับบัญชา
วันที่ 17 ต.ค.67 เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.ปัญจนนท์ วิจิตรโท ผกก.สภ.แสนสุข ,พ.ต.ท.ธนันท์วุฒธนันท์วุฒิวงค์ รอง ผกก.ป.ฯ ,พ.ต.ท.ธันยวิช มณีโชติ รอง ผกก.สส.ฯ และ ข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.แสนสุข ร่วม วันตำรวจแห่งชาติ 17 ตุลาคม ประจำปี 2567
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ